รู้จัก อาหารสร้างสุข
รู้จัก อาหารสร้างสุข
สวัสดีครับคุณครูทุกท่าน วันนี้ สื่อการสอนฟรี ดอทคอม ของเรา วันนี้ขอนำเสนอบทความอาหารสร้างสุขของเรา ก็จะมาบอกว่า ทานอะไรที่จะช่วยคลายความร้อนกายร้อนใจได้บ้าง
ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนอาจทำให้เกิดการจราจรที่ติดขัดอย่างคาดการณ์ไม่ถึง พาลทำให้เกิดอารมณ์ขุ่นมัว หลายๆ คนจึงอยากหาอะไรทำเพื่อที่จะคลายเครียด บางคนใช้การออกกำลังกาย แต่บางคนใช้การรับประทานอาหาร
วันนี้อาหารสร้างสุขของเรา ก็จะมาบอกว่า ทานอะไรที่จะช่วยคลายความร้อนกายร้อนใจได้บ้าง
โดยอาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่ได้พลังงานกลูโคสแก่ร่างกายจำพวกกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเป็นหลาย เช่น ข้าว แป้ง น้ำตาล ฯลฯ นั้น จะทำให้ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงขึ้นร่างกายจึงกระตุ้นการหลั่งอินซูลินมากขึ้น ทำให้กรดอะมิโนที่จับกับสารปริปโตเฟนถูกนำไปใช้ ทำให้ทริปโตเฟนสามารถนำไปสร้างเป็น “ซีโรโทนิน” ผ่านเข้าไปยังสมองได้มากขึ้น ซึ่งเป็นสารเพิ่มความสุข ทำให้เรารู้สึกผ่านคลายและอารมณ์ขึ้น
ตัวอย่างอาหารที่ช่วยเพิ่มความสุขให้เกิดขึ้น ได้แก่
กล้วย : อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 และทริปโตเฟน ซึ่งช่วยสร้างสารเซโรโทนินในร่างกาย ทำให้คลายความตึงเครียดของประบบประสาท รู้สึกผ่อนคลาย และช่วยให้นอนหลับสบาย
ไข่ : มีคุณค่าอหารมากมายทั้งโปรตีน วิตามินบี ไอโอดีน สังกะสี และกรดไขมัน โอเมก้า-3 ซึ่งเป็นตัวตั้งต้นทำงานร่วมกับสร้างทริปโตเฟน แลยังทำให้อิ่มท้องนานขึ้น (ไข่ไก่ ขนาด 55 กรัม ให้โปรตีน 7 กรัม พลังงานเฉลี่ย 75 กิโลแคลอรี่)
คาร์กช็อกโกแลต : มีประโยชน์มากกว่าช็อกโกแลตนามธรรมดา เพราะมีน้ำตาลน้อยและในช็อกโกแลตมีสารที่เรียกว่า ฟีนิลเอทิลเอมีน (Phenylethylamine) ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า อย่างไรก็ตาม ควรกินให้พอเหมาะระว่างอย่าให้มากเกินไป แค่ประมาณวันละ 1 บาร์ หรือประมาณ 30 กรัม ก็เพียงพอ
ชาดอกคาโมมายล์ : ในดอกคาโมมายล์มีสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ กรดฟีโนลิก และน้ำมันหอมระเหย ในทางเภสัชวิทยาพลว่ามีฤทธิ์ที่ช่วยยับยั้งอาการอักเสบ ลดอาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ และเมื่อบริโภคในรูปแบบของชาก็สามารถทำให้นอนกลับได้สนิทขึ้น
สิ่งสำคัญที่เราจะต้องใส่ใจ คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารไขมันจากสัตว์รับประทานผักให้หลากสี หลังอาหารควรรับประทานผลไม้แทนขนมหวาน ตลอดทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการมองโลกในแง่ดีจะทำให้เรามีจิตใจท่ผ่องใส ร่างกายแข็งแรง ดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา :: https://www.chulabhornhospital.com/page.php?name=467