ศธ.สั่งโรงเรียนสำรวจความพร้อมตามมาตรการป้องโควิด รับเปิดเทอม 1 ก.ค.
ศธ.สั่งโรงเรียนสำรวจความพร้อมตามมาตรการป้องโควิด รับเปิดเทอม 1 ก.ค.
ศธ.สั่งโรงเรียนสำรวจความพร้อมตามมาตรการป้องโควิด รับเปิดเทอม 1 ก.ค.
2 มิถุนายน 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ศธ.ได้แจ้งเพื่อทราบให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่า ศธ. มีแนวทางปฏิบัติงานอย่างไรเกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมา ศธ.ได้รายงานให้ ครม.ทราบเป็นระยะ ๆอยู่แล้ว โดยในวันนี้ ศธ.ได้รายงานถึงการเปิดการเรียนการสอนได้ที่โรงเรียน แต่ต้องมีมาตรการตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด และถ้าเปิดสอนที่โรงเรียนก็จะมีผลกระทบเรื่องหลักสูตร แต่ถ้าไม่ได้เปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียนก็ต้องทำการเรียนการสอนออนแอร์ผ่านทีวีดิจิทัล หรือผ่านทางออนไลน์บางส่วน ก็มีผลกระทบอื่นๆตามมานอกเหนือจากหลักสูตร คือ เรื่องของการประเมิน การวัดผล จะมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้น ซึ่งตนได้ยืนยันกับทาง ครม.ว่า ศธ.ได้เตรียมแผนสำหรับการเรียนการสอนที่ไม่ใช่ที่โรงเรียนไว้แล้ว และสามารถบริหารจัดการได้ จึงแจ้งให้ที่ประชุม ครม.ทราบ เพื่อ ครม.จะได้ไม่กังวลกับเรื่องนี้
ส่วนค่าใช้จ่ายที่หมุนมาใช้ในช่วงจำเป็นนี้เป็นงบประมาณกิจกรรมต่างๆที่จัดสรรไว้แล้ว ก็หมุนมาช่วยเหลือและทำกิจกรรมของคุณครูของโรงเรียนในช่วงวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าน้ำมันรถ ค่ากระดาษใบงาน และค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ซึ่งในแต่ละโรงเรียนก็ใช้งบไม่เท่ากัน
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า จากกรณีที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.คณะใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน และ ศบค.ได้ให้ ศธ.นำมาตรการไปให้โรงเรียนต่างๆในสังกัด ศธ.รับทราบก่อนเปิดเรียน และให้ส่งความเห็นกลับ หากโรงเรียนมีข้อจำกัดไม่สามารถทำตามมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านสาธารณสุขได้ ก็ให้โรงเรียนมีข้อเสนอกลับมา เช่น ถ้าโรงเรียนไม่สามารถเว้นระยะห่างของนักเรียนในห้องเรียนได้ เนื่องจากมีนักเรียนจำนวนมาก ห้องละเกิน 50 คน ไม่สามารถแบ่งห้องให้เหลือห้องละ 20-25 คนได้ ซึ่งจากที่ตนได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเมื่อวานนี้(1 มิถุนายน 2563) ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่และโรงเรียนในเมืองที่มีนักเรียนมาก แต่โรงเรียนมีเนื้อที่จำกัด ก็ต้องใช้เวลาในการบริหารจัดทำแผนและนำเสนอกลับมา
ส่วน ศธ.จะนำข้อเสนอให้ ศบค.พิจารณาหรือไม่ ต้องรอดูความพร้อมอีกครั้งหนึ่ง เพราะขณะนี้ใกล้วันที่ 1 กรกฎาคม แล้ว ซึ่งมีหลายประเด็นที่ต้องคำนึงถึงหากใกล้เปิดเทอมมากๆ ศธ.ก็ต้องดูถึงความพร้อมและความจำเป็น และขณะนี้สถานการณ์รอบข้างเปลี่ยนไปทุกวัน ศธ.จึงต้องปรับแผน และเท่าที่ฟังผู้บริหารโรงเรียนและครู มีความเข้าใจสถานการณ์
“กรณีที่ ครม.จะให้หยุดชดเชยวันหยุดสงกรานต์ในช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเปิดเทอมแล้วนั้น คงจะมีผลกระทบกับเวลาเรียนของเด็กบ้าง แต่ ศธ.ก็ต้องรอให้ทาง ครม.พิจารณาออกมาก่อน หากกระทบกับเด็ก ศธ.คงจะเสนอถึงความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมให้ ครม.รับทราบต่อไป ส่วนที่มีการแชร์กันว่ามีการกำหนดไม่ให้นักเรียนใส่หน้ากากอนามัยสีลายนั้น คิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นที่จะต้องกังวลว่าเด็กต้องใส่หน้ากากสีเหมือนกัน หรือใส่สีอะไร แต่ที่สำคัญที่สุดคือเด็กต้องใส่หน้ากากที่จะทำให้เด็กๆปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19” รมว.ศธ. กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก แนวหน้า วันอังคาร ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2563