ข่าวการศึกษา

หลักเกฑ์และวิธีการคัดเลือกครูภาษาไทยดีเด่น เพื่อรับรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ ประจำปี 2563

หลักเกฑ์และวิธีการคัดเลือกครูภาษาไทยดีเด่น เพื่อรับรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ ประจำปี 2563

หลักเกฑ์และวิธีการคัดเลือกครูภาษาไทยดีเด่น เพื่อรับรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ ประจำปี 2563

สวัสดีครับคุณครูทุกท่าน วันนี้ สื่อการสอนฟรี ดอทคอม ของเราขอนำเสนอหลักเกฑ์และวิธีการคัดเลือกครูภาษาไทยดีเด่น เพื่อรับรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ ประจำปี 2563 ครับ

ดร.วัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภากำหนดคัดเลือกครูภาษาไทยในประจำการของสถาบันการศึกษาระดับต่าง ๆ ทั้งของรัฐและเอกชน รวมทั้ง ผู้สอนภาษาไทยในระดับอุดมศึกษา ที่มีผลงานดีเด่นเพื่อประกาศเกียรติคุณเป็นครูภาษาไทยดีเด่น ประจำปี 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม และยกย่องเชิดชูเกียรติครูภาษาไทยที่มีผลงานดีเด่นให้เป็นแบบอย่างที่ดี สร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของครูภาษาไทยอย่างต่อเนื่อง สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ให้เกิดการพัฒนาตนเองและมีคุณภาพในการจัดการเรียนรู้ ส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน และเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับรางวัลได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ทางวิชาชีพ

ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นครูภาษาไทยดีเด่น จำนวนไม่เกิน 50 รางวัล จะได้รับรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ โล่ประกาศเกียรติคุณ และเกียรติบัตร

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับรางวัลครูภาษาไทยดีเด่น เป็นครูหรืออาจารย์ประจำสอนภาษาไทยในสถานศึกษา ปฏิบัติการสอนในวิชาภาษาไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีการศึกษา นับถึงวันที่ออกประกาศเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (ยกเว้นอาจารย์ประจำในระดับอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ) มีความประพฤติดี และไม่เคยมีประวัติการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ มีพฤติกรรมเสื่อมเสียต่อวิชาชีพ หรืออยู่ในระหว่างการดำเนินการทางคดี หรือการสอบสวนทางวินัยใด ๆ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เรียน ส่งเสริมผู้เรียนให้มีพัฒนาการการเรียนรู้ภาษาไทยที่เหมาะสมกับสถานภาพและความพร้อมของผู้เรียนแต่ละคน มีมนุษย์สัมพันธ์และให้ความร่วมมือที่ดีในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทุกระดับทั้งภายในและภายนอกองค์กร มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ และไม่เคยได้รับรางวัลการยกย่องเป็นครูภาษาไทยดีเด่น

หลักเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย 3 ด้าน 1) ด้านการจัดการเรียนรู้ 2) ผลงานวิชาการ และ 3) ผลลัพธ์ที่เกิดกับผู้เรียน โดยการเสนอผลงานหรือเสนอชื่อ มี 2 วิธี คือ ครูหรืออาจารย์ประจำที่สอนภาษาไทยในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับอาชีวศึกษา และระดับอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน สามารถเสนอผลงานด้วยตนเอง หรือได้รับการเสนอชื่อจากบุคคลอื่น โดยให้ผู้อำนวยการสถานศึกษา/คณบดี รับรอง ผู้เสนอผลงานด้วยตนเองแล้ว ต้องไม่ให้บุคคลอื่นเสนอผลงานซ้ำอีก ทั้งนี้ ผู้เสนอผลงานหรือได้รับการเสนอชื่อ กรอกประวัติและผลงานตามแบบที่กำหนด และส่งผลงานเพื่อพิจารณาคัดเลือก

วิธีการคัดเลือก

1) การพิจารณาคัดเลือก ในจังหวัด สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพครูหรืออาจารย์ทุกสังกัด ในจังหวัด โดยแต่งตั้งกรรมการคัดเลือก จำนวนไม่น้อยกว่า 15 คน ให้มีผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาภาษาไทย และผู้แทนจากทุกสังกัด ร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกครูภาษาไทยดีเด่นตามคุณสมบัติให้ได้ จังหวัดละ 3 คน เสนอคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดเพื่อทราบ บันทึกข้อมูลผู้ได้รับรางวัลครูภาษาไทยดีเด่น ลงในระบบ “ยกย่องวิชาชีพงานรางวัลครูภาษาไทยดีเด่น” ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ในระบบ tepis2.ksp.or.th ส่งมายังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เพื่อดำเนินการคัดเลือกต่อไป

2) การพิจารณาคัดเลือก ในกรุงเทพมหานคร สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา (แทนสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร) พิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบวิชาชีพครูหรืออาจารย์ทุกสังกัด ในกรุงเทพมหานคร โดยแต่งตั้งกรรมการคัดเลือก จำนวนไม่น้อยกว่า 15 คน ให้มีผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาภาษาไทย และผู้แทนจากทุกสังกัด ร่วมเป็นกรรมการคัดเลือกครูภาษาไทยดีเด่นตามคุณสมบัติให้ได้ จังหวัดละ 3 คน ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เพื่อดำเนินการคัดเลือกต่อไป ทั้งนี้ หากผลงานได้รับการพิจารณา คณะอนุกรรมการอาจไปประเมินสภาพจริงได้ และการคัดค้านให้เป็นไปตามวิธีการที่หน่วยคัดเลือกกำหนด

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จะประกาศผลภายในเดือนธันวาคม 2563 คำวินิจฉัยของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพถือเป็นที่สุด และกำหนดมอบรางวัลในงานวันครู พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกหากมีพฤติกรรมเสื่อมเสียต่อวิชาชีพหรือขัดต่อจรรยาบรรณของวิชาชีพ คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ มีสิทธิเพิกถอนรายชื่อออกจากบัญชีผู้ได้รับรางวัล หรือเรียกรางวัลคืน แล้วแต่กรณี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์คุรุสภา www.ksp.or.th และสอบถามได้ที่ สำนักพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพ กลุ่มยกย่องวิชาชีพ โทร. 0 2282 3153

ขอบคุณที่มาและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา 

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button